วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แท้จริงกายใจเป็นธรรมชาติที่เกิดดับอย่างมีเหตุมีผล


… แท้จริงกายใจเป็นธรรมชาติที่เกิดดับอย่างมีเหตุมีผล เหตุคือใช้กายใจในปัจจุบันก่อกรรมดีร้ายเอาไว้ ผลคือจะมีกายใจในอนาคตที่หยาบหรือประณีตปรากฏขึ้นอย่างเหมาะสมกับกรรมเก่า ฉะนั้นทุกอย่างจึงเป็นของชั่วคราว กายไม่เที่ยง เปลี่ยนจากเด็กเป็นแก่ในชั่วเวลาไม่กี่สิบปี จิตก็ไม่เที่ยง ไม่ใช่ดวงอมตะที่ล่องลอยไปเรื่อย เปลี่ยนสภาพจากกุศลเป็นอกุศลบ้าง เปลี่ยนสภาพจากรู้สิ่งหนึ่งไปรู้อีกสิ่งหนึ่งบ้างตลอดวันตลอดคืน
พูดอีกแบบหนึ่ง คือความจริงแล้วมีการดับของขันธ์อยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องไปทำ ให้มันดับมันก็ดับไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีวันหยุดราชการ แต่การ ‘ดับขันธปริ นิพพาน’ นั้นหมายความว่าเมื่อดับครั้งสุดท้ายแล้วไม่มีการเคลื่อน ไม่มีการสืบ ต่อภพ ไม่มีการสืบต่อกรรมวิบากใด ๆ อีก พูดโดยย่นย่อคือไม่ต้องเสวยทุกข์ด้วย อาการใด ๆ อีกเลยชั่วนิรันดร์ เพราะดับสนิทแล้ว ปราศจากภัยแล้ว ถึงนิพพาน อันเป็นฝั่งแห่งการหยุดสนิทถาวรแล้ว (บทที่ ๗)


ดังตฤณ : เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น